4 อันดับนักเตะใหม่ป้ายแดงของยอดทีมพรีเมียร์ลีกที่ต้องจับตามองห้ามพลาดเป็นอันขาด
แน่นอนว่าทุกครั้งที่ตลาดซื้อขายเปิดขึ้น ข่าวคราวการย้ายทีมของนักเตะก็เริ่มสงครามกันอย่างรุนแรง บางรายเหลาข่าวเป็นปีสองปีก้ยังไม่เกิดดีลขึ้น บางรายเป็นกระแสฟ้าผ่าจะย้ายไปนั่นย้ายไปนี่ ก็รอกันต่อไปว่าจะเป็นจริงเมื่อไหร่ แต่บางรายไม่ลีลามีข่าวปุ๊บก็เข้ากระบวนการสโมสรทันทีทันใดพรุ่งก็ชูเสื้อเป้นนักเตะของต้นสังใหม่อย่างแท้จริง แต่ก็ยังไม่วายบางสำนักข่าวก็เล่นข่าวสะแฟนบอลนี่นอนฝันหวานหยาดเยิ้ม วันนี้เราจะมาชวนจับตามองนักเตะที่ย้ายต้นสังกัดเป็นที่เรียบร้อยแบบไม่ต้องลุ้นใด ๆ ทั้งสิ้น ว่าจะมีผลงานกระหึ่มโลกขนาดไหน
4.โรเมลู ลูกากู จากอินเตอร์มิลาน กัลโช่ เซเรีย อา ย้ายสู่เชลซี พรีเมียร์ลีก
สิงห์บลูประกาศคว้ากองหน้าร่างใหญ่อย่างลูกากูมาร่วมทีมอีกครั้งด้วยค่าคัว 97.5 ล้านปอนด์ จากยอดทีมแดนอิตาลีอินเตอร์มิลาน ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพรของแฟนบอลเมืองลอนดอนนี้อย่างมาก เพราะเป็นการหวนคืนบ้านเก่าอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าตู้เย็นเบลเยียม ย้ายออกไปร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่พักหลังชักจะปืนฝืดเป็นเพียงผู้เล่นที่ยืนอยู่ให้ครบ 11 ตัว จนได้ฉายานี้มา ก่อนย้ายไปร่วมทีมอินเตอร์มิลาน พร้อมการระเบิดฟอร์มกลับมาเป็นยอดกองหน้าร่างเดิมอีกครั้งที่เคยทำได้สมัยอยู่กับเชลซี จึงเป็นสิ่งที่เสี่ยหมีโรมันอับบราฮิโมวิช เรียกร้องให้จัดกลับมาเถอะเท่าไหร่ก็จ่าย จึงเป้นค่าตัวที่สูงเกินกว่าที่จะคาดเดาแตะหลักร้อยล้านเป็นที่เรียบร้อย มาดูกันต่อเลยมาจะรักษาฟอร์มการเล่นได้เป็นยอดกองหน้าระดับโลก หรือเป็นเพียงศูนย์หน้าฟอร์มดีกันแน่
3.อีบราอีมา โกนาเต แอร์เบ ไลพ์ซิก บุนเดสลีก้า ย้ายสู่ลิเวอร์พูล พรีเมียร์ลีก
อดีตหัวหอกพลิกโฉมสู่กองหลังผู้แข่งแกร่งวัย 22 ปีรายนี้ ย้ายสู่ทีมขวัญใจมหาชนด้วยค่าตัว 36 ล้านปอนด์ด้วยฟอร์มเล่นเป็นที่เข้าตาของยอดทีมในยุโรปมากมาย สไตล์การเล่นกลางอากาศได้อย่างโดดเด่นด้วยความสูงถึง 1.94 เมตร มีเปอร์เซ็นชนะคู่ต่อสู้ถึง 85.7 เปอร์เซ็นต์ บวกกับการเคยเล่นกองหน้ามาแล้วสมัยเยาวชน ทำให้มีความรวดเร็วติดตัวอย่างชัดเจน ไม่เป็นรองกองหน้าความเร็วสักเท่าไหร่ จึงเป้นการบ้านที่ทางสโมสรเร่งปิดดีลนี้อย่างรวดเร็ว เพราะฤดูกาลที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นแล้วว่าการขาดฟานไดค์ไปจากอาการบาดเจ็บ ส่งผลต่อการเล่นของทีมอย่างแท้จริง ถึงกับโซเซเสียศูนย์อยู่พักใหญ่ แต่เร่งเครื่องท้ายฤดูกาลจนเข้าวินได้สำเร็จ แฟนบอลหงส์แดงต่างจับตามองว่าการจับคู่กับปราการหลังของทีมจะเป็นที่แข็งแกร่งขนาดไหนในฤดูกาลนี้
2.แจ็ค กริลิช แอสตันวิล่า พรีเมียร์ลีก ย้ายสู่แมนเชสเตอร์ซิตี้ พรีเมียร์ลีก
เจ้าของสถิติใหม่แห่งเวทีฟุตบอลเมืองผู้ดีที่ตัวเลข 100 ล้านปอนด์ไม่มากไปไม่น้อยไป แต่ขึ้นทะยานไปแล้วสำหรับนักเตะสไตล์อินดี้ไม่สนใจใคร แต่มีสายเลือดอังกฤษและติดไปเล่นยูโรปีล่าสุดสะด้วย ด้วยผลงานกับต้นสังกัดเก่าแอสตันวิลล่ามาหลายฤดูกาล จนถึงช่วงซัมเมอร์นี้ที่เหมือนเป็นเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่อะไรก็ดูเข้าตาทีมยักษ์ใหญ่ไปหมด ทำให้กองกลางตัวใหม่ของเรือใบสีฟ้าด้วยสัญญา 6 ปี รับค่าเหนื่อยที่ตัวเลข 250,000 ปอนด์ ย้ายสวมเบอร์ 10 แทนกองหน้าระดับตำนานกุนอเกวโร่ที่ย้ายไปร่วมทีมบาร์เซโลน่าเป็นที่เรียบร้อย เชื่อกันว่าแจ็คคือจิ๊กซอลตัวสำคัญที่เป็ปกวาดิโอลา จะใช้เป็นชิ้นส่วนล่าความสำเร็จในฤดูกาลนี้
1.เจดอน ซานโช ดอร์ทมุน บุนเดสลีก้า ย้ายสู่ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด พรีเมียร์ลีก
เป็นข่าวอยู่ 2 ปี ก่อนที่ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจะได้ควักเงิน 73 ล้านปอนด์ออกมาใช้สักที เป็นข่าวให้แฟนบอลทั่วโลกใจหายใจคว่ำอยู่แสนนานว่าดีลนี้จะเป็นเพียงฝันหวาน หรือเกิดขึ้นจริงแบบนักไม่ติด สุดท้ายก้เป็นเรื่องยินดีที่หลังจากปิดฉากฟุตบอลยูโร จบลงการคืบหน้าคว้าตัวเข้าสู่ทีมก็ทำได้อย่างรวดเร็ว สุดท้ายเว็บไซต์สโมสรก็ประกาสคว้าตัวนักเตะตำแหน่งริมเส้นวัย 22 ปีสัญญาณชาติอังกฤษเข้าสู่ทีม ปีนี้ก็คงต้องจับตามองกันอย่างเต็มที่ว่านักเตะที่ฟอร์มร้อนแรงมากที่สุดคนหนึ่งของศึกเยอรมัน ย้ายข้ามฝากมาสู่เมืองผู้ดีจะรักษาผลงานได้ดีแค่ไหน และจะหอบถ้วยใดสักใบที่ห่างหายไปนานของตู้โชว์หน้าสโมสรกลับได้หรือไม่
รู้หรือไม่ นักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในการย้ายเข้าสู่เวทีพรีเมียร์ลีกคือใคร
นั้นคือ พอล ป็อกบา กองกลางชาวฝรั่งเศส ดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลกนั่นเอง เป็นการย้ายจากยูเวนตุส สู่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 89 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2016 ก่อนสถิตินี้จะถูกโค่นไปด้วยการย้ายทีมของแจ็ค กริลิชด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์ ในปี 2021 ซึ่งป็อกบาเป็นกำลังหลักของแมนยูมาโดยตลอด ผ่านไป 5 ปีฟอร์มการเล่นของนักเตะจอมตัดผมรายนี้ก็เป็นที่วิจารณ์มาโดยตลอดด้วยเรื่องฟอร์มการเล่นที่ไม่คงเส้นคงวามากนัก ลงทะเลก็บ่อยเป็นพระเอกตอนจบก็มีอยู่บ้าง ซึ่งก็เป็นที่ต้องเอาใจช่วยสำหรับนักเตะรายนี้ว่าจะพาทีมสู่ความสำเร็จได้อีกเมื่อไหร่
REF